ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปริญญาฯ-มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น"

 
(ไม่แสดง 10 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
แถว 1: แถว 1:
เมลเบิร์น
+
<div id="king">
 +
<center><h5>(คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ)</h5>
 +
 
 +
'''คำประกาศสดุดีพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช<br />ในโอกาสที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย'''<br />'''ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญานินิศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์<br />ณ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น วันจันทร์ ที่ ๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๐๕'''</center>
 +
</div>
 +
<div id="king2">
 +
 
 +
ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม
 +
 
 +
<div class="kindent">วันนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พวกเราทั้งหลายได้มีโอกาสรับเสด็จพระมหากษัตริย์ผู้ยังทรงครองราชย์อยู่ในปัจจุบัน และทรงเป็นประมุข แห่งพระราชวงศ์ที่มิใช่พระราชวงศ์ในเครือจักรภพ
 +
</div>
 +
<div class="kindent">โอกาสอันดีเช่นนี้ น่าจะเตือนใจพวกเราให้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระประมุข และพระราชวงศ์ผู้ทรงสถาปนา และอุปถัมภ์มหาวิทยาลัยต่างๆ ในหลายประเทศตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ให้จดจำรำลึกถึง "นักบุญหลวง" ผู้ทรงสถาปนาโบสถ์ ประจำคิงส์คอลเลจ แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ซึ่งเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่และรุ่งโรจน์ในทางภูมิปัญญาอันล้ำลึก และหวนคำนึงถึงมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ในข้อที่ว่า
 +
</div>
 +
<div class="kindent">"พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณทรงรังสรรค์แต่ครั้งโบราณกาล
 +
<div class="kindent">ทั้งหอคอยตระหง่าน สุสาน และอนุสาวรีย์ เรียงราย
 +
<div class="kindent">อีกวิถีหลายสายเพื่อรองบาทบทจรแห่งปราชญ์และบุรุษเกรียงไกร"
 +
</div>
 +
<div class="kindent">การอุปถัมภ์[[การศึกษา]]ในประเทศไทยเป็นโบราณราชประเพณีเช่นเดียวกับในประเทศอังกฤษ ในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๓ พ่อขุนราคำแหงมหาราชทรงสถาปนาศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ส่วนในสมัยใหม่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมอัยกาธิราช ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งโรงเรียมากมาย ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นได้กลายเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปัจจุบัน สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชนก สมเด็จพระราชบิดาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงศึกษา วิชา[[การแพทย์]] ณ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ทรงมีส่วนสำคัญในการก่อตั้งคณะแพทย์แห่งโรงพยาบาลศิริราช อีกทั้งได้ทรงพระกรุณาส่งนักศึกษาแพทย์ไทย ไปศึกษา ยังต่างประเทศด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์
 +
 
 +
</div>
 +
<div class="kindent">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชสมภพ ณ เมืองเคมบริดจ์ ซึ่งมิใช่เมืองเคมบริดจ์เก่าแก่ ที่เกี่ยวข้องกับราชสำนัก แต่เป็นเมืองเคมบริดจ์ใหม่ในรัฐแมสซาชูเซตส์แห่งสหรัฐอเมริกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษา ณ มหาวิทยาลัยโลซาน แม้จะสนพระราชหฤทัยในสาขา[[วิทยาศาสตร์]]แต่ได้ทรงเปลี่ยนไปศึกษา[[กฎหมาย]]และรัฐประศาสนศาสตร์ ในฐานะพระมหากษัตริย์ ทรงอุปถัมภ์สยามสมาคม และองค์กรทางการศึกษาและอาชีพมากมาย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ก่อตั้งทุนภูมิพลเพื่อพระราชทานแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และทุนมูลนิธิ อานันทมหิดลเพื่อพระราชทานแก่บัณฑิตไทยที่มีผล[[การศึกษา]]ยอดเยี่ยมเพื่อไปศึกษาต่อต่างประเทศ ในสาขาแพทยศาสตร์ และเมื่อไม่นานมานี้ได้รวมถึง สาขาวิทยาศาสตร์ และเกษตรศาสตร์ด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสนพระราชหฤทัยในการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และได้เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทาน ปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาด้วยพระองค์เอง
 +
</div>
 +
<div class="kindent">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสนพระราชหฤทัยในด้านการสาธารณสุขไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการศึกษา ทรงรณรงค์เพื่อต่อสู้กับอหิวาตกโรค เพื่อควบคุมโรคเรื้อน และเพื่อบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยโรคโปลิโอ ทรงพระกรุณาพระราชทานความช่วยเหลือสนับสนุนกิจการเหล่านี้ ด้วยทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่าง พระราชทานทุนทรัพย์และสิ่งของตลอดจนหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และเรือสำหรับสภากาชาดไทยซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเป็นสภานายิกา
 +
<div class="kindent">พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใฝ่พระราชหฤทัยในการนำประโยชน์จากความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และการแพทย์สมัยใหม่มาใช้ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกร และก็ยังทรงสนพระราชหฤทัยอย่างลึกซึ้งในศิลปวัฒนธรรมไทยโบราณและ การศาสนาอีกด้วย ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกของทุกศาสนาในประเทศไทย ทรงส่งเสริม[[ศิลปะ]]และ[[ดนตรี]]ประจำชาติ (ทั้งนี้มิใช่จะทรงละเว้นความสนพระราชหฤทัยในศิลปะ และดนตรีแขนงอื่นแต่อย่างใด) ทั้งยังทรงพระราชอุตสาหะในการธำรงรักษาความพิศุทธ์ของภาษาไทย
 +
<div class="kindent">สุดท้ายนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมา ณ มหาวิทาลัยเมลเบิร์น บ่ายวันนี้ในฐานะ พระประมุขของประเทศที่พวกเราทั้งหลายได้รู้จักพสกนิกรของพระองค์และเรียนรู้ที่จะชื่นชอบในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาไทย ซึ่งเป็นอาคันตุกะของเรา ในรัฐวิกตอเรีย ในการประกาศสดุดีพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราขอแสดงความชื่นชมนักศึกษาเหล่านั้น และประชาชนชาวไทยทั้งประเทศด้วย
 +
 
 +
 
 +
<br>
 +
 
 +
<p  align="right" style="margin-right: 20%;">ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ</p>
 +
 
 +
----
 +
 
 +
 
 +
[[ภาพ:มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น.jpg|อธิการบดีมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาบัตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์|center]]
 +
<center> อธิการบดีมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาบัตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ณ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น นครเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย เมื่อวันจันทร์ ที่ ๓ กันยายน ๒๕๐๕</center>
 +
 
 +
 
 +
[[ภาพ:มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น2.jpg|ในหลวงพระราชทานพระราชดำรัส|center]]
 +
<center>พระราชทานพระราชดำรัสในโอกาสที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น  ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาบัตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
 +
</center>
 +
 
 +
 
 
----
 
----
  
[[Category: ปริญญาฯ]]
+
{{แม่แบบ:เมนูประมวลคำสดุดี}}
[[Category: นิติศาสตร์]]
+
 
 +
[[หมวดหมู่:ปริญญาฯ]]
 +
[[หมวดหมู่:สังคม]]
 +
[[หมวดหมู่:นิติศาสตร์]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 10:27, 15 กรกฎาคม 2551

(คำแปลอย่างไม่เป็นทางการ)
คำประกาศสดุดีพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ในโอกาสที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย

ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญานินิศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ณ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น วันจันทร์ ที่ ๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๐๕

ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม

วันนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่พวกเราทั้งหลายได้มีโอกาสรับเสด็จพระมหากษัตริย์ผู้ยังทรงครองราชย์อยู่ในปัจจุบัน และทรงเป็นประมุข แห่งพระราชวงศ์ที่มิใช่พระราชวงศ์ในเครือจักรภพ
โอกาสอันดีเช่นนี้ น่าจะเตือนใจพวกเราให้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระประมุข และพระราชวงศ์ผู้ทรงสถาปนา และอุปถัมภ์มหาวิทยาลัยต่างๆ ในหลายประเทศตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ให้จดจำรำลึกถึง "นักบุญหลวง" ผู้ทรงสถาปนาโบสถ์ ประจำคิงส์คอลเลจ แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ซึ่งเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่และรุ่งโรจน์ในทางภูมิปัญญาอันล้ำลึก และหวนคำนึงถึงมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ในข้อที่ว่า
"พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณทรงรังสรรค์แต่ครั้งโบราณกาล
ทั้งหอคอยตระหง่าน สุสาน และอนุสาวรีย์ เรียงราย
อีกวิถีหลายสายเพื่อรองบาทบทจรแห่งปราชญ์และบุรุษเกรียงไกร"
การอุปถัมภ์การศึกษาในประเทศไทยเป็นโบราณราชประเพณีเช่นเดียวกับในประเทศอังกฤษ ในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๓ พ่อขุนราคำแหงมหาราชทรงสถาปนาศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ส่วนในสมัยใหม่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมอัยกาธิราช ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งโรงเรียมากมาย ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นได้กลายเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในปัจจุบัน สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชนก สมเด็จพระราชบิดาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงศึกษา วิชาการแพทย์ ณ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ทรงมีส่วนสำคัญในการก่อตั้งคณะแพทย์แห่งโรงพยาบาลศิริราช อีกทั้งได้ทรงพระกรุณาส่งนักศึกษาแพทย์ไทย ไปศึกษา ยังต่างประเทศด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชสมภพ ณ เมืองเคมบริดจ์ ซึ่งมิใช่เมืองเคมบริดจ์เก่าแก่ ที่เกี่ยวข้องกับราชสำนัก แต่เป็นเมืองเคมบริดจ์ใหม่ในรัฐแมสซาชูเซตส์แห่งสหรัฐอเมริกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงศึกษา ณ มหาวิทยาลัยโลซาน แม้จะสนพระราชหฤทัยในสาขาวิทยาศาสตร์แต่ได้ทรงเปลี่ยนไปศึกษากฎหมายและรัฐประศาสนศาสตร์ ในฐานะพระมหากษัตริย์ ทรงอุปถัมภ์สยามสมาคม และองค์กรทางการศึกษาและอาชีพมากมาย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ก่อตั้งทุนภูมิพลเพื่อพระราชทานแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และทุนมูลนิธิ อานันทมหิดลเพื่อพระราชทานแก่บัณฑิตไทยที่มีผลการศึกษายอดเยี่ยมเพื่อไปศึกษาต่อต่างประเทศ ในสาขาแพทยศาสตร์ และเมื่อไม่นานมานี้ได้รวมถึง สาขาวิทยาศาสตร์ และเกษตรศาสตร์ด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสนพระราชหฤทัยในการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย และได้เสด็จพระราชดำเนินไปพระราชทาน ปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาด้วยพระองค์เอง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสนพระราชหฤทัยในด้านการสาธารณสุขไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการศึกษา ทรงรณรงค์เพื่อต่อสู้กับอหิวาตกโรค เพื่อควบคุมโรคเรื้อน และเพื่อบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยโรคโปลิโอ ทรงพระกรุณาพระราชทานความช่วยเหลือสนับสนุนกิจการเหล่านี้ ด้วยทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่าง พระราชทานทุนทรัพย์และสิ่งของตลอดจนหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ และเรือสำหรับสภากาชาดไทยซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงเป็นสภานายิกา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใฝ่พระราชหฤทัยในการนำประโยชน์จากความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และการแพทย์สมัยใหม่มาใช้ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกร และก็ยังทรงสนพระราชหฤทัยอย่างลึกซึ้งในศิลปวัฒนธรรมไทยโบราณและ การศาสนาอีกด้วย ทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภกของทุกศาสนาในประเทศไทย ทรงส่งเสริมศิลปะและดนตรีประจำชาติ (ทั้งนี้มิใช่จะทรงละเว้นความสนพระราชหฤทัยในศิลปะ และดนตรีแขนงอื่นแต่อย่างใด) ทั้งยังทรงพระราชอุตสาหะในการธำรงรักษาความพิศุทธ์ของภาษาไทย
สุดท้ายนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมา ณ มหาวิทาลัยเมลเบิร์น บ่ายวันนี้ในฐานะ พระประมุขของประเทศที่พวกเราทั้งหลายได้รู้จักพสกนิกรของพระองค์และเรียนรู้ที่จะชื่นชอบในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาไทย ซึ่งเป็นอาคันตุกะของเรา ในรัฐวิกตอเรีย ในการประกาศสดุดีพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เราขอแสดงความชื่นชมนักศึกษาเหล่านั้น และประชาชนชาวไทยทั้งประเทศด้วย



ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ



อธิการบดีมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาบัตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
อธิการบดีมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาบัตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ณ มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น นครเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย เมื่อวันจันทร์ ที่ ๓ กันยายน ๒๕๐๕


ในหลวงพระราชทานพระราชดำรัส
พระราชทานพระราชดำรัสในโอกาสที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาบัตรนิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์



Dot orange2.gif หน้าแรกประมวลคำสดุดีพระเกียรติคุณฯ Dot orange2.gif บัญชีปริญญาดุษฎีบัณฑิตฯ Dot orange2.gif บัญชีตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ฯ Dot orange2.gif บัญชีรางวัลฯ Dot orange2.gif พระราชกรณียกิจ