ปริญญาฯ-มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:02, 29 กุมภาพันธ์ 2551 โดย Haiiwiki (คุย | มีส่วนร่วม)
คำประกาศสดุดีพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ในโอกาสที่มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น สหรัฐอเมริกา
ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญานินิศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ณ วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
วันศุกร์ ที่ ๒๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๙
ตลอดระยะเวลา ๖๐ ปี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงครองประเทศ อันเป็นที่รักยิ่งของพระองค์ด้วยพระเกียรติยศ พระเมตตาคุณ และพระปรีชาสามารถอันลึกซึ้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ ที่จะทรงงานเพื่อพสกนิกรของพระองค์ ทรงมุ่งมั่นในการปรับปรุงชีวิตของพวกเขาเหล่านั้นด้วยวิธีอย่างเป็นรูปธรรมนานัปการ พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่สักการะสูงสุดของอาณาประชาราษฎร์ พระมหากษัตริย์ที่ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายเฉลิมพระเกียรติ ทรงเป็นผู้นำอย่างแท้จริงที่กอปรด้วยพระปรีชาสามารถ อันหาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ ได้ทรงใช้เวลาตลอดระยะเวลา ๖๐ ปีที่ผ่านมา เสด็จพระราชดำเนินไปยังส่วนต่างๆ ของประเทศเพื่อทรงรับฟังปัญหา และเข้าพระราชหฤทัยถึงความต้องการสำคัญของพสกนิกร โดยเฉพาะผู้ยากไร้ในชนบทที่ห่างไกล ด้วยพระปรีชาสามารถอันถ่องแท้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงก่อตั้งโครงการด้านการแพทย์และเกษตรกรรม และพระราชทานความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีแก่ประชาชนผู้เดือดร้อน และทุกข์ทรมาน นอกจากนี้ ยังทรงขจัดปัดเป่าความขัดแย้งที่มีแนวโน้มรุนแรงด้วยพระปรีชาสามารถและ พระราชปฏิภาณอันเฉียบคมด้านการเมือง และนำมาซึ่งทางออกที่สงบสุข ก่อให้เกิดสันติที่ไม่มีผู้อื่นสามารถกระทำได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระบรมราชสมภพ ณ สหรัฐอเมริกา และได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช และสมเด็จพระเชษฐภคินี ไปประทับ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ณ ที่นั้นได้ทรงเข้าศึกษาในโรงเรียนเอกอล นูเวล เดอ ลา ซืออิส โรมองด์ และสถานศึกษาชีมนาสกลาชีก กองโตนาล แห่งเมืองโลซาน ในเวลาต่อมา แต่การเสด็จสวรรคตโดยกะทันหันของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร สมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช ได้แปรเปลี่ยนวิถีชีวิตของพระผู้ทรงเกียรติของปวงข้าพระพุทธเจ้า ด้วยทรงเป็นผู้สืบราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินกลับไปทรงศึกษาต่อ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อทรงเตรียมพระองค์ให้พร้อมยิ่งขึ้นในอันที่จะฝ่าฟันอุปสรรคที่ท้าทายในภายภาคหน้า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งการพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส กับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ในวันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ หนึ่งสัปดาห์ก่อนพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และมีพระราชโอรส พระราชธิดา ๔ พระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นนักดนตรีและ นักประพันธ์เพลงแจ๊ศที่ประสบความสำเร็จ จึงทรงได้รับการกราบบังคมทูลเชิญให้ทรงดำรงตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสถาบันการดนตรีและ ศิลปะแห่งกรุงเวียนนาเมื่อมีพระชนมายุ ๓๒ พรรษา* พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังทรงเป็นจิตรกร นักถ่ายภาพ นักเขียน และนักแปลที่ผลงานพระราชนิพนธ์ติดอันดับขายดี ตลอดระยะเวลาหกทศวรรษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้ความสำคัญกับ ความต้องการของประชาชนเหนือสิ่งอื่นใด ทรงส่งเสริมประชาธิปไตยและสนับสนุนผู้ที่ด้อยโอกาส ทรงเป็นผู้นำที่กอปรด้วยพระปรีชาสามารถและพระมหากรุณา ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจตามพระราชภาระหน้าที่อย่างไม่ท้อถอยลังเล ทรงถือว่าพระมหากษัตริย์นั้นเปรียบเสมือนความศรัทธาอันสูงส่ง ซึ่งผูกพันพระองค์ไว้กับราษฎรทุกคน ดังนั้น ด้วยความชื่นชมโสมนัสในพระประมุขผู้ทรงเป็นนักวิชาการและรัฐบุรุษผู้ทรงพระเมตตาการุณย์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์นจึงขอพระราฃทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญา นิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช
*สถาบันการดนตรีและศิลปะแห่งกรุงเวียนนากราบบังคมทูลเชิญให้ทรงดำรงตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๐๗ ขณะมีพระชนมายุ ๓๖ พรรษา
ประธานมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น สหรัฐอเมริกา เฝ้าถวายปริญญานินิศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์
ณ ท้องพระโรงศาลาเริง วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
วันศุกร์ ที่ ๒๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๙
หน้าแรกประมวลคำสดุดีพระเกียรติคุณฯ | บัญชีปริญญาดุษฎีบัณฑิตฯ | บัญชีตำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์ฯ | บัญชีรางวัลฯ | พระราชกรณียกิจ |