ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สังคมสงเคราะห์"

(<div style="color:red">'''พุทธศักราช ๒๕๐๕'''</div>)
แถว 2: แถว 2:
 
</center>
 
</center>
  
==<div style="color:red">'''พุทธศักราช ๒๕๐๕'''</div>==
+
==<div style="color:red">'''พุทธศักราช ๒๕๐๕ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์  '''</div>==
 
<div style="display:table">
 
<div style="display:table">
 
[[ภาพ:ตะลุมพุก.jpg|เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรสิ่งของ ที่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเพื่อช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย <br>ณ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช|frame|left]]พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๐๕ เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ปรสบความเดือดร้อนจากเหตุการณ์วาตภัยและอุทกภัยขึ้นที่แหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราชทำให้ต้องสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก
 
[[ภาพ:ตะลุมพุก.jpg|เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรสิ่งของ ที่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเพื่อช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย <br>ณ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช|frame|left]]พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๐๕ เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ปรสบความเดือดร้อนจากเหตุการณ์วาตภัยและอุทกภัยขึ้นที่แหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราชทำให้ต้องสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก
แถว 17: แถว 17:
 
<span style="color:#4C5714">"... ผู้ที่ประสบภัยโดยเฉพาะเด็กๆ ได้สูญเสียทั้งโรงเรียน ทั้งผู้อุปการะฉะนั้นได้ตั้งนโยบายที่จะช่วยเหลือเด็ก ที่เป็นกำพร้าจากภัยธรรมชาติเหล่านั้น เลยตั้งโรงเรียนและได้อุปการะเด็กให้มีที่เรียน และมีผู้ปกครองคือมูลนิธิ ให้สามารถที่จะเรียนตั้งแต่ชั้นเล็กๆ จนกระทั่งจบโรงเรียนมัธยม มีบางรายก็ได้สนับสนุนจะกระทั่งถึงขั้นอุดมศึกษาและเลยไปก็ได้..."</span> พระราชดำรัสเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา
 
<span style="color:#4C5714">"... ผู้ที่ประสบภัยโดยเฉพาะเด็กๆ ได้สูญเสียทั้งโรงเรียน ทั้งผู้อุปการะฉะนั้นได้ตั้งนโยบายที่จะช่วยเหลือเด็ก ที่เป็นกำพร้าจากภัยธรรมชาติเหล่านั้น เลยตั้งโรงเรียนและได้อุปการะเด็กให้มีที่เรียน และมีผู้ปกครองคือมูลนิธิ ให้สามารถที่จะเรียนตั้งแต่ชั้นเล็กๆ จนกระทั่งจบโรงเรียนมัธยม มีบางรายก็ได้สนับสนุนจะกระทั่งถึงขั้นอุดมศึกษาและเลยไปก็ได้..."</span> พระราชดำรัสเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา
 
</div>
 
</div>
 +
 +
 +
==<div style="color:red">'''พุทธศักราช ๒๕๐๖ มูลนิธิราชประชาสมาสัย'''</div>==
 +
<span class="kindent">หลังจากก่อสร้างสถาบัน "ราชประชาสมาสัย" เมื่อปี ๒๕๐๓ เพื่อเป็นสถานฝึกอบรมและค้นคว้าเกี่ยวกับโรคเรื้อน ได้พระราชทานเงินที่เหลือเป็นกองทุนก่อตั้ง "มูลนิธิราชประชาสมาสัย" เพื่อช่วเหลือกิจการด้านค้นคว้าป้องกันรักษาและสงเคราะห์ผู้ป่วยโรคเรื้อน</span>
 +
 +
<span class="kindent">"ราชประชาสมาสัย" หมายถึง พระมหากษัตริย์และประชาชนย่อมพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน</span>
 +
 +
<div class="kindent">ต่อมาในปี ๒๕๐๖ ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดสร้างโรงเรียนสำหรับบุตรผู่ป่วยโรคเรื้อนที่เลี้ยงแยกกับบิดามารดาแต่แรกเกิดและไม่มีโรคเรื้อน แต่พระราชบัญญัติควบคุมโรคติดต่อบังคับมิให้โรงเรียนใดรับเป็นนักเรียน ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรม จึงได้จัดสร้างโรงเรียนให้แก่เด็กผู้ด้อยโอกาสเหล่านั้น และพระราชทานชื่อโรงเรียนว่า<span style="color:#4C5714">"โรงเรียนราชประชาสมาสัย"</span></div>
 +
<div class="kindent">
 +
<span style="color:#4C5714">"...การทำงานสำคัญ ๆ จำเป็นจะต้องอาศัยความตั้งใจจริง และความเพียรพยายามอย่างสม่ำเสมอไม่ย่อท้อ ยิ่งเป็นงานอบรมสั่งสอนเด็กที่ต้องกระทำต่อเนื่องกันอย่างไม่ขาดสาย ยิ่งจำเป็นที่ท่านจะต้องรักษาความตั้งใจ ความอุตสาหะ ความเพียรไว้ให้มั่นคงที่สุด จึงจะสามารถก้าวไปถึงจุดหมายโดยสมบูรณ์บริบูรณ์ได้..."</span> พระราชดำรัสคราวเสด็จฯ ไปทรงเปิดอาคารเรียน อาคาร ๑๐ ปี ในปี พ.ศ.๒๕๑๔</div>
 +
 +
 
----
 
----
 
{{แม่แบบ:สำนักงาน กปร.2}}
 
{{แม่แบบ:สำนักงาน กปร.2}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:06, 4 มีนาคม 2551

พระราชกรณียกิจด้านสังคมสงเคราะห์
สังคมสงเคราะห์.jpg

พุทธศักราช ๒๕๐๕ มูลนิธิราชประชานุเคราะห์

เสด็จฯ ไปทอดพระเนตรสิ่งของ ที่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเพื่อช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย
ณ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๐๕ เพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ปรสบความเดือดร้อนจากเหตุการณ์วาตภัยและอุทกภัยขึ้นที่แหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราชทำให้ต้องสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินไปเป็นจำนวนมาก


ในเหตุการณ์ครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นผู้นำในการให้ความช่วยเหลือทันที โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถานีวิทยุ อ.ส พระราชวังดุสิตประกาศให้ประชาชนทราบข่าว และเชิญชวนบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบเคราะห์กรรม ปรากฏว่ามีผู้ร่วมบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศล ประมาณ ๑๑ ล้านบาท พระองค์ได้พระราชทานเงินทั้งหมดให้กรมประชาสงเคราะห์ นำไปดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป ปรากฏว่าหลังการให้ความช่วยเหลือ ยังคงมีเงินเหลืออยู่อีกประมาณ ๓ ล้านบาท จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำไปจัดตั้งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ หมายถึง มูลนิธิที่พระมหากษัตริย์และประชาชนร่วมกันจัดตั้งขึ้น มีวัตถุประสงค์ เพื่อสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยโดยฉับพลันทั่วประเทศ ในลักษณะการช่วยเหลือเฉพาะหน้าเกี่ยวกับเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิต


พระราชทานพระราชดำรัสให้จัดตั้งโรงเรียนราชประชานุเคราะห์และเสด็จฯ ไปพระราชทานสิ่งของแก่เด็กนักเรียน
ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ให้สร้างโรงเรียนประชาบาล ที่ถูกพายุแฮเรียตพัดพัง รวม ๑๒ โรงเรียนใน ๒ จังหวัดภาคใต้ และพระราชทานชื่อว่า "โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ถึง ๑๒ ตามลำดับ" และได้พระราชทานโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ให้แก่ผู้ประสบภัยอีกหลายแห่งในระยะต่อมา รวมจำนวน ๓๙ แห่ง

"... ผู้ที่ประสบภัยโดยเฉพาะเด็กๆ ได้สูญเสียทั้งโรงเรียน ทั้งผู้อุปการะฉะนั้นได้ตั้งนโยบายที่จะช่วยเหลือเด็ก ที่เป็นกำพร้าจากภัยธรรมชาติเหล่านั้น เลยตั้งโรงเรียนและได้อุปการะเด็กให้มีที่เรียน และมีผู้ปกครองคือมูลนิธิ ให้สามารถที่จะเรียนตั้งแต่ชั้นเล็กๆ จนกระทั่งจบโรงเรียนมัธยม มีบางรายก็ได้สนับสนุนจะกระทั่งถึงขั้นอุดมศึกษาและเลยไปก็ได้..." พระราชดำรัสเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา


พุทธศักราช ๒๕๐๖ มูลนิธิราชประชาสมาสัย

หลังจากก่อสร้างสถาบัน "ราชประชาสมาสัย" เมื่อปี ๒๕๐๓ เพื่อเป็นสถานฝึกอบรมและค้นคว้าเกี่ยวกับโรคเรื้อน ได้พระราชทานเงินที่เหลือเป็นกองทุนก่อตั้ง "มูลนิธิราชประชาสมาสัย" เพื่อช่วเหลือกิจการด้านค้นคว้าป้องกันรักษาและสงเคราะห์ผู้ป่วยโรคเรื้อน

"ราชประชาสมาสัย" หมายถึง พระมหากษัตริย์และประชาชนย่อมพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน

ต่อมาในปี ๒๕๐๖ ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดสร้างโรงเรียนสำหรับบุตรผู่ป่วยโรคเรื้อนที่เลี้ยงแยกกับบิดามารดาแต่แรกเกิดและไม่มีโรคเรื้อน แต่พระราชบัญญัติควบคุมโรคติดต่อบังคับมิให้โรงเรียนใดรับเป็นนักเรียน ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรม จึงได้จัดสร้างโรงเรียนให้แก่เด็กผู้ด้อยโอกาสเหล่านั้น และพระราชทานชื่อโรงเรียนว่า"โรงเรียนราชประชาสมาสัย"
"...การทำงานสำคัญ ๆ จำเป็นจะต้องอาศัยความตั้งใจจริง และความเพียรพยายามอย่างสม่ำเสมอไม่ย่อท้อ ยิ่งเป็นงานอบรมสั่งสอนเด็กที่ต้องกระทำต่อเนื่องกันอย่างไม่ขาดสาย ยิ่งจำเป็นที่ท่านจะต้องรักษาความตั้งใจ ความอุตสาหะ ความเพียรไว้ให้มั่นคงที่สุด จึงจะสามารถก้าวไปถึงจุดหมายโดยสมบูรณ์บริบูรณ์ได้..." พระราชดำรัสคราวเสด็จฯ ไปทรงเปิดอาคารเรียน อาคาร ๑๐ ปี ในปี พ.ศ.๒๕๑๔



ข้อมูลจาก หนังสือ ๘๐ พรรษา ปวงประชาสุขศานต์ จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ