พระราชอำนาจตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:34, 2 ตุลาคม 2552 โดย Haiiwiki (คุย | มีส่วนร่วม) (สร้างหน้าใหม่: <div id="bg_g8"> <div id="bg_treeb"> <center><h1>ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ตามบทบัญญัติ...)
(ต่าง) ←รุ่นแก้ไขก่อนหน้า | รุ่นแก้ไขล่าสุด (ต่าง) | รุ่นแก้ไขถัดไป→ (ต่าง)

ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ

ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหา ในระบอบประชาธิปไตย มีพระราชอำนาจในการบริหาร ราชการแผ่นดินตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ผ่าน สถาบันต่างๆ ของรัฐ คือ บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ มาตรา ๓ ได้กำหนดว่า “อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขทรงใช้อำนาจนั้น ทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญนี้” รวมถึงมาตรา ๘ ที่บัญญัติไว้ว่า “องค์พระมหากษัตริย์ ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะ ละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ ในทางใดๆ มิได้” โดยจะไม่ทรงประกอบการใดทางการเมือง ด้วยพระองค์เอง ทั้งอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และ อำนาจตุลาการ หากเกิดความคลาดเคลื่อนผิดพลาดใดๆ ย่อมถือว่ามิได้ทรงกระทำผิด เพราะบุคคลที่รับผิดชอบ ต่อความคลาดเคลื่อนผิดพลาดนั้น คือองค์กรเจ้าของเรื่อง และผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ ที่ถือเป็นผู้แทน ขององค์กรนั้นๆ ในรัฐธรรมนูญ ยังบัญญัติถึงพระราช ฐานะและพระราชอำนาจอื่นๆ อีกหลายประการ ได้แก่ “พระมหากษัตริย์ทรงเป็นพุทธมามกะ และทรงเป็น อัครศาสนูปถัมภก” ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๙ และ “พระมหากษัตริย์ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย” ตามมาตรา ๑๐ รวมถึง “พระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่ง พระราชอำนาจที่จะสถาปนาฐานันดรศักดิ์และพระราชทาน เครื่องราชอิสริยาภรณ์” ตามมาตรา ๑๑ บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญได้บัญญัติถึงพระราช อำนาจของพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะในการเลือกและ แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิมาดำรงตำแหน่งประธานองคมนตรี และองคมนตรี ข้าราชการในพระองค์ และสมุหราช องครักษ์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ และพระรัชทายาท เพื่อสืบราชสันตติวงศ์ตามพระราชอัธยาศัย ตามมาตรา ๑๒ ๑๗ ๑๘ และ ๒๒ ตามลำดับ