ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การแพทย์"

แถว 3: แถว 3:
  
 
<div style="width:100%; display:table">
 
<div style="width:100%; display:table">
<div style="float:left">[[ภาพ:หน่วยแพทย์เคลื่อนที่.jpg]]<br /><br />[[ภาพ:หน่วยแพทย์เคลื่อนที่2.jpg]]</div>
+
<div style="float:left">[[ภาพ:หน่วยแพทย์เคลื่อนที่.jpg]]<br /><br />[[ภาพ:หน่วยแพทย์เคลื่อนที่2.jpg]]<br /><br /><br /><br />[[ภาพ:หน่วยแพทย์เคลื่อนที่3.jpg]]</div>
 
<div style="float:left; padding-left:10px">เมื่อปี ๒๔๙๖ ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรที่บ้านปากทวาร ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ <br />ทรงพบว่าราษฎรที่มาเข้าเฝ้าฯ เป็นไข้จับสั่นและโรคอื่นๆ เป็นจำนวนมาก จึงมีพระราชปรารภว่าในท้องที่ห่างไกลที่แพทย์และพยาบาลเข้าไปไม่ถึงนั้น ราษฎรต้องถูก<br />โรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ทั้งๆ ที่โรคที่เป็นสามารถรักษาให้หายได้ไม่ยาก ดังนั้นจึงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์รวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยานพาหนะและเวชภัณฑ์<br /> ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปรักษาประชาชนในท้องถิ่นธุรกันดาร เริ่มจากจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เรียกชื่อว่า <br />'''"หน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทาน"''' ต่อมาเมื่อปี ๒๔๙๙ ให้จัดตั้งขึ้นอีก ๒ แห่ง คือ ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ<br /> และพื้นที่จังหวัดยะลาเพื่อดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยในพื้นที่ทางภาคใต้
 
<div style="float:left; padding-left:10px">เมื่อปี ๒๔๙๖ ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรที่บ้านปากทวาร ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ <br />ทรงพบว่าราษฎรที่มาเข้าเฝ้าฯ เป็นไข้จับสั่นและโรคอื่นๆ เป็นจำนวนมาก จึงมีพระราชปรารภว่าในท้องที่ห่างไกลที่แพทย์และพยาบาลเข้าไปไม่ถึงนั้น ราษฎรต้องถูก<br />โรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ทั้งๆ ที่โรคที่เป็นสามารถรักษาให้หายได้ไม่ยาก ดังนั้นจึงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์รวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยานพาหนะและเวชภัณฑ์<br /> ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปรักษาประชาชนในท้องถิ่นธุรกันดาร เริ่มจากจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เรียกชื่อว่า <br />'''"หน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทาน"''' ต่อมาเมื่อปี ๒๔๙๙ ให้จัดตั้งขึ้นอีก ๒ แห่ง คือ ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ<br /> และพื้นที่จังหวัดยะลาเพื่อดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยในพื้นที่ทางภาคใต้
  
  
[[ภาพ:หน่วยแพทย์เคลื่อนที่3.jpg |left]] "เรือเวชพาหน์" หน่วยแพท์ทางน้ำ<br />เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์
+
 
 +
<br /><br /><br /> '''"เรือเวชพาหน์" หน่วยแพท์ทางน้ำ'''<br />เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้ต่อเรือขึ้นลำหนึ่งทำด้วยไม้สักสองชั้น ภายในลำเรือแบ่งพื้นที่เป็น<br />ห้องตรวจรักษาโรคต่างๆ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องมือทันตกรรม และเวชภัณฑ์ครบครัน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโครงการ<br />แพทย์หลวงพระราชทาน "เรือเวชพาหน์" ขึ้น เพื่อออกให้บริการแก่ประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ ซึ่งการเดินทางโดยรถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้
 +
<br />
 +
 
 +
 
 +
นับเป็นเรือบรรเทาทุกข์และรักษาพยาบาลทางน้ำลำแรกและลำเดียวในโลก ที่ยังคงให้บริการประชาชนอยู่จนถึงทุกวันนี้
 
</div>
 
</div>
 
</div>
 
</div>

รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:56, 11 กุมภาพันธ์ 2551

พุทธศักราช ๒๔๙๖ : หน่วยแพทย์เคลื่อนที่หน่วยแรก


หน่วยแพทย์เคลื่อนที่.jpg

หน่วยแพทย์เคลื่อนที่2.jpg



หน่วยแพทย์เคลื่อนที่3.jpg
เมื่อปี ๒๔๙๖ ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรที่บ้านปากทวาร ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ทรงพบว่าราษฎรที่มาเข้าเฝ้าฯ เป็นไข้จับสั่นและโรคอื่นๆ เป็นจำนวนมาก จึงมีพระราชปรารภว่าในท้องที่ห่างไกลที่แพทย์และพยาบาลเข้าไปไม่ถึงนั้น ราษฎรต้องถูก
โรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ทั้งๆ ที่โรคที่เป็นสามารถรักษาให้หายได้ไม่ยาก ดังนั้นจึงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์รวมทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ ยานพาหนะและเวชภัณฑ์
ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดตั้งหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปรักษาประชาชนในท้องถิ่นธุรกันดาร เริ่มจากจังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เรียกชื่อว่า
"หน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทาน" ต่อมาเมื่อปี ๒๔๙๙ ให้จัดตั้งขึ้นอีก ๒ แห่ง คือ ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยในพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และพื้นที่จังหวัดยะลาเพื่อดูแลรักษาผู้เจ็บป่วยในพื้นที่ทางภาคใต้





"เรือเวชพาหน์" หน่วยแพท์ทางน้ำ
เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๘ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้ต่อเรือขึ้นลำหนึ่งทำด้วยไม้สักสองชั้น ภายในลำเรือแบ่งพื้นที่เป็น
ห้องตรวจรักษาโรคต่างๆ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องมือทันตกรรม และเวชภัณฑ์ครบครัน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งโครงการ
แพทย์หลวงพระราชทาน "เรือเวชพาหน์" ขึ้น เพื่อออกให้บริการแก่ประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมน้ำ ซึ่งการเดินทางโดยรถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้


นับเป็นเรือบรรเทาทุกข์และรักษาพยาบาลทางน้ำลำแรกและลำเดียวในโลก ที่ยังคงให้บริการประชาชนอยู่จนถึงทุกวันนี้



มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล - http://www.princemahidolaward.org/about.th.php




**ข้อมูลจาก หนังสือ ๘๐ พรรษา ปวงประชาสุขศานต์ จัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ