ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พุทธมามกะ"
Haiiwiki (คุย | มีส่วนร่วม) |
Haiiwiki (คุย | มีส่วนร่วม) |
||
แถว 31: | แถว 31: | ||
'''ทรงส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน''' | '''ทรงส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน''' | ||
− | เรื่องที่สำคัญที่สุดในการคุ้มครองพระพุทธศาสนาให้พ้นภัยและทำนุบำรุงให้เข้มแข็ง คือ การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นหลักชัยในการอุปถัมภ์เผยแพร่ศีลธรรม | + | เรื่องที่สำคัญที่สุดในการคุ้มครองพระพุทธศาสนาให้พ้นภัยและทำนุบำรุงให้เข้มแข็ง คือ การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นหลักชัยในการอุปถัมภ์เผยแพร่ศีลธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงอุปถัมภ์'''การสังคายนาพระไตรปิฎก''''''ทำตัวหนา''' ด้วยเป็นเครื่องมือประกาศถึงความเป็นศูนย์กลางของความมั่นคงทางพุทธศาสนาของไทยที่สำคัญยิ่ง |
</div> | </div> | ||
[[หมวดหมู่:ในฐานะพระมหากษัตริย์]] | [[หมวดหมู่:ในฐานะพระมหากษัตริย์]] | ||
</div> | </div> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:22, 5 ตุลาคม 2552
พุทธมามกะ: ข้าแห่งพระพุทธศาสนา
ตลอดเวลากว่า ๖๐ ปีแห่งการครองราชย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงดำรงพระองค์เป็นพุทธมามกะอย่างเคร่งครัด ทรงเอาพระราชหฤทัยใส่ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และให้การเกื้อกูลแก่นานาศาสนาที่ประชาชนชาวไทยนับถือและศรัทธามาโดยตลอด
การบำเพ็ญพระราชกุศลทางศาสนาในฐานะพุทธมามกะ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประกอบพระราชกรณียกิจที่สำคัญอย่างถึงพร้อมด้วยพระราชฐานะของพุทธมามกะหลายประการ อาทิ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอย่างสม่ำเสมอ ได้แก่ วันมาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา การบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ทั้งพระกฐินหลวง พระกฐิน หลวงพระราชทาน พระกฐินต้น ซึ่งทรงปฏิบัติเป็นประจำทุกปี ด้วยมีพระราชประสงค์จะทรงอนุเคราะห์พระภิกษุให้ได้รับประโยชน์ในทางพระวินัย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รื้อฟื้นพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยกระบวนพยุหยาตราทาง ชลมารคขึ้นใหม่ เพื่อเป็นการดำรงไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีที่ถือปฏิบัติมาแต่โบราณ
ทรงอุปถัมภ์คณะสงฆ์ให้มั่นคง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้การอุปถัมภ์คณะสงฆ์ด้วยการส่งเสริมและเอาพระราชหฤทัยใส่พระภิกษุผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ไม่ว่าจะเป็นการสถาปนา สมเด็จพระสังฆราช การสถาปนาสมเด็จพระราชาคณะรวมถึงการพระราชทานสมณศักดิ์และพัดยศตามระเบียบแบบแผน และประเพณีในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม เป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นบำเหน็จความชอบแก่พระสงฆ์ที่ได้ประกอบคุณความดีเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติและพระพุทธศาสนา หรือการพระราชทาน พระบรมราชานุเคราะห์การอุปสมบทนาคหลวงเพื่อเพิ่มจำนวนพระภิกษุ อันให้เป็นกำลังค้ำจุนรากฐานแห่งพระพุทธศาสนาให้มั่นคงเข้มแข็ง
ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักในพระราชหฤทัยดีว่า พระพุทธศาสนาจะแข็งแกร่งและก้าวไกลได้ ก็ต่อเมื่อมีการเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอนของ พระพุทธเจ้าให้ขจรขจายออกไปสู่ทุกดินแดน ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงทรงส่งเสริมและอุปถัมภ์การศึกษาพระปริยัติธรรม การตั้งเปรียญ โดยทรงอุปถัมภ์มหาวิทยาลัยสงฆ์ คือ สภาการศึกษามหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้จัดการศึกษาถึงระดับปริญญาศาสนศาสตรบัณฑิต และมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรม ราชูปถัมภ์ จัดการศึกษาถึงระดับปริญญาพุทธศาสตรบัณฑิต รวมถึงได้มีการตราพระราชบัญญัติ กำหนดวิทยฐานะผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนา พุทธศักราช ๒๕๒๗ บัญญัติให้ผู้สำเร็จวิชาการพระพุทธศาสนาเปรียญธรรมเก้าประโยค (ป.ธ.๙) ศาสนศาสตรบัณฑิตและพุทธศาสตรบัณฑิตมีวิทยฐานะเทียบเท่าชั้นปริญญาตรี
ทรงส่งเสริมพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืน
เรื่องที่สำคัญที่สุดในการคุ้มครองพระพุทธศาสนาให้พ้นภัยและทำนุบำรุงให้เข้มแข็ง คือ การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นหลักชัยในการอุปถัมภ์เผยแพร่ศีลธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงอุปถัมภ์'การสังคายนาพระไตรปิฎก'ทำตัวหนา ด้วยเป็นเครื่องมือประกาศถึงความเป็นศูนย์กลางของความมั่นคงทางพุทธศาสนาของไทยที่สำคัญยิ่ง